ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่เข้าชมเว็บไซต์ผ่านมือถือ มากกว่าคอมพิวเตอร์ Google จึงเปลี่ยนแนวทางการจัดอันดับเว็บไซต์โดยเน้น
Mobile-first Indexing หรือก็คือ “มองเว็บเวอร์ชันมือถือเป็นหลัก”
📱 Mobile-first Indexing คืออะไร?
Mobile-first Indexing คือแนวทางที่ Google จะ
รวบรวมข้อมูล (Crawl) และจัดอันดับ (Index) เว็บไซต์โดยอ้างอิงจาก
เวอร์ชันมือถือ เป็นหลัก ไม่ใช่เดสก์ท็อปแบบแต่ก่อน
ถ้าเวอร์ชันมือถือของคุณโหลดช้า ข้อมูลไม่ครบ หรือใช้งานยาก นั่นหมายความว่าอันดับ SEO ของเว็บอาจตกได้ แม้ว่าเวอร์ชันเดสก์ท็อปจะดีแค่ไหนก็ตาม
❗ ข้อมูลจาก Google: ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา เว็บไซต์ทั้งหมดถูกจัดอันดับด้วย Mobile-first เป็นค่าเริ่มต้นแล้ว
✅ ควรปรับเว็บยังไงให้รองรับ Mobile-first
1.
ใช้ Responsive Designออกแบบเว็บไซต์ให้แสดงผลได้ดีทุกขนาดหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ แท็บเล็ต หรือเดสก์ท็อป
[ul]
- หลีกเลี่ยงการทำแยก m.example.com เพราะเสี่ยงข้อมูลไม่เท่ากัน
- ใช้ CSS Media Queries เพื่อจัด Layout ให้เหมาะกับหน้าจอ
[/ul]
2.
เนื้อหาบนมือถือ = เดสก์ท็อปตรวจสอบให้แน่ใจว่า
เนื้อหา รูปภาพ ลิงก์ และโครงสร้างข้อมูล (Structured Data) ในเวอร์ชันมือถือมีครบ ไม่ตัดออก
[ul]
- บางเว็บซ่อนเนื้อหาบางส่วนในมือถือ ซึ่ง Google จะไม่เห็น
[/ul]
3.
ปรับความเร็วเว็บบนมือถือPage speed สำคัญมากสำหรับผู้ใช้มือถือ
[ul]
- ย่อขนาดรูป
- ลดจำนวนไฟล์ JavaScript
- ใช้ AMP หรือเทคนิค Lazy Load (โหลดเมื่อเลื่อนถึง)
[/ul]
4.
ใช้ขนาดฟอนต์และปุ่มที่อ่านง่าย กดง่าย[ul]
- ขนาดฟอนต์ไม่ควรเล็กเกินไป (แนะนำ 16px ขึ้นไป)
- ปุ่มควรห่างกันพอสมควร เพื่อป้องกัน “กดพลาด”
[/ul]
5.
ตรวจสอบด้วยเครื่องมือของ Google[ul]
- Mobile-Friendly Test
- PageSpeed Insights – เช็กความเร็วบนมือถือ
- Google Search Console – ดูปัญหาที่ Google เจอบนเวอร์ชันมือถือ
[/ul]
🔍 สรุป
Mobile-first Indexing คือการเปลี่ยนมุมมองของ
Google ที่ให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์บนมือถือ” เป็นอันดับแรก หากเว็บของคุณยังไม่พร้อมสำหรับมือถือ อาจเสียอันดับไปแบบไม่รู้ตัว ถึงเวลาเช็กและปรับให้เว็บมือถือของคุณ “เร็ว ครบ และใช้งานง่าย” แล้ว!