งานเจาะตรวจดิน (Soil Boring Test) เป็นวิธีการสำคัญที่ช่วยให้นักปรับปรุงอสังหาริมทรัพย์ วิศวกร และก็ดีไซน์เนอร์องค์ประกอบเข้าใจรูปแบบของดินในพื้นที่ก่อสร้างได้อย่างถ่องแท้ ข้อมูลที่ได้รับมาจากการสำรวจดินนี้มีหน้าที่สำคัญสำหรับเพื่อการดีไซน์ฐานรากโครงสร้าง ช่วยลดการเสี่ยงจากปัญหาดินที่บางทีอาจส่งผลต่อความมั่นคงแล้วก็ความปลอดภัยของอาคารหรือโครงงานต่างๆในเนื้อหานี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจขั้นตอนและก็กรรมวิธีการเจาะตรวจดินอย่างระมัดระวัง เพื่อให้สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในการก่อสร้าง
🌏✅🎯กระบวนการเจาะสำรวจดิน
1.การวางแผนแล้วก็เตรียมพร้อมก่อนการเจาะสำรวจดิน
ก่อนเริ่มงานเจาะสำรวจดิน การวางเป้าหมายเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อการทำงานเป็นไปอย่างง่ายดายและก็ได้ข้อมูลที่มีคุณภาพสูง โดยต้องพินิจพิเคราะห์เหตุดังต่อไปนี้:
-กำหนดพื้นที่แล้วก็จุดเจาะสำรวจ
การเลือกตำแหน่งสำหรับการเจาะดินควรครอบคลุมพื้นที่ที่จะก่อสร้าง เพื่อได้ข้อมูลดินที่แท้จริงในทุกจุด
-ประเมินความลึกของการเจาะ
ความลึกของการเจาะตรวจสอบจะขึ้นอยู่กับขนาดแล้วก็น้ำหนักขององค์ประกอบที่วางแผนจะก่อสร้าง
-จัดเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือและก็เครื่องมือ
ตัวอย่างเช่น เครื่องเจาะดิน แบบอย่างดินใส่หลอดทดลอง รวมทั้งเครื่องไม้เครื่องมือเสริมอื่นๆ
-------------------------------------------------------------
เสนอบริการ เจาะดิน | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท Boring Test บริการ เจาะดิน วิเคราะห์และทดสอบตัวอย่างดิน ทดสอบความสมบูรณ์ของเสาเข็ม (Seismic Integrity Test)
👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook:
https://www.facebook.com/exesoiltest/-------------------------------------------------------------
2.การสำรวจพื้นที่เบื้องต้น
การสำรวจเบื้องต้นก่อนเริ่มเจาะช่วยทำให้ทีมงานรู้เรื่องลักษณะตำแหน่งที่ตั้ง ดังเช่น ความลาดเอียง ระดับน้ำใต้ดิน และองค์ประกอบของดินชั้นบน เพื่อประเมินความเหมาะสมสำหรับการเจาะตรวจ
3.การเจาะตรวจและก็เก็บตัวอย่างดิน (Soil Sampling)
ขั้นตอนนี้ถือเป็นหัวใจหลักของงานเจาะสำรวจดิน โดยใช้เครื่องเจาะพิเศษสำหรับเพื่อการนำตัวอย่างดินออกมาทดลอง มีวิธีการเก็บเนื้อเก็บตัวอย่างดินดังต่อไปนี้:
4.การเก็บตัวอย่างดินผิวหน้า (Surface Sampling)
ใช้สำหรับพินิจพิจารณาคุณสมบัติดินในชั้นตื้น อย่างเช่น การซึมผ่านของน้ำ ความชื้น และการแปดเปื้อน
5.การเก็บเนื้อเก็บตัวอย่างดินลึก (Core Sampling)
ใช้สำหรับเรียนลักษณะของดินในชั้นลึก อย่างเช่น ดินเหนียว ดินทราย รวมทั้งดินหิน
6.การบันทึกข้อมูลและการตรวจตราพื้นฐาน
ระหว่างการเจาะ วิศวกรจะบันทึกข้อมูลที่สำคัญ เป็นต้นว่า ความลึกที่ดินแต่ละชั้นปรากฏ ความหนาแน่น แล้วก็ปริมาณน้ำบาดาล ข้อมูลนี้จะช่วยในการตกลงใจระหว่างการทำงาน
7.การวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ
ตัวอย่างดินที่เก็บมาจะถูกส่งไปยังห้องทดลองเพื่อพินิจพิจารณาคุณสมบัติต่างๆดังเช่นว่า
-ค่าความสามารถสำหรับการรับน้ำหนัก (Bearing Capacity)
ใช้สำหรับการออกแบบรากฐาน
-ค่าการซึมผ่านของน้ำ (Permeability)
ใช้เพื่อการวางแผนระบายน้ำ
-ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH Value)
ช่วยประมวลผลกระทบต่ออุปกรณ์ที่ใช้ในส่วนประกอบ
🛒👉👉การจัดทำรายงานผลของการสำรวจดิน
หลังจากการวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการสำเร็จ วิศวกรจะทำรายงานที่สรุปข้อมูลทั้งปวง ซึ่งประกอบด้วย:
-รายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติของดินแต่ละชั้น
-คำแนะนำในการวางแบบรากฐาน
-การวัดความเสี่ยงจากสาเหตุดิน
✅⚡📢ขั้นตอนการเจาะตรวจสอบดินที่นิยมใช้
1.การเจาะตรวจสอบด้วยแนวทางมือ (Hand Auger Drilling)
แนวทางลักษณะนี้เหมาะสำหรับงานเจาะสำรวจขนาดเล็กหรือพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึง โดยใช้เครื่องไม้เครื่องมือเจาะดินซึ่งสามารถหมุนมือได้
2.การเจาะสำรวจด้วยเครื่องจักร (Machine Drilling)
ใช้เครื่องเจาะดินที่มีระบบไฮดคอยลิกหรือระบบมอเตอร์ เหมาะสำหรับการเจาะลึกและก็พื้นที่ขนาดใหญ่
3.การเจาะตรวจสอบด้วยแนวทาง Wash Boring
ใช้สำหรับพื้นที่ที่มีชั้นดินเหนียวหรือชั้นดินทราย โดยใช้แรงดันน้ำช่วยสำหรับการเจาะ
4.การเจาะตรวจด้วยแนวทาง Rotary Drilling
เป็นแนวทางที่ใช้เครื่องเจาะแบบหมุนที่มีคุณภาพสูง เหมาะสำหรับการเจาะดินชั้นลึกและการสำรวจโครงงานขนาดใหญ่
📢🎯📌ข้อควรระวังสำหรับในการเจาะสำรวจดิน
-การเลือกตำแหน่งเจาะที่ไม่เหมาะสม
การเจาะตรวจสอบในจุดที่ไม่ครอบคลุมเขตก่อสร้างอาจก่อให้ข้อมูลที่ได้ไม่ครบถ้วน
-การละเลยแนวทางการวิเคราะห์ดิน
ถ้าหากข้ามขั้นเดี๋ยวนี้ไป บางทีอาจมีผลเสียต่อความมั่นคงยั่งยืนของโครงสร้างในอนาคต
-การใช้งานเครื่องมือที่ไม่เหมาะสม
อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจจะส่งผลให้ตัวอย่างดินที่เก็บได้มีความผิดบ้า
📢⚡👉คุณประโยชน์ของการปฏิบัติตามแนวทางการเจาะสำรวจดินอย่างถูกต้อง
1.ช่วยทำให้การออกแบบฐานรากมีความแม่นยำ
ข้อมูลที่ได้จากการเจาะสำรวจช่วยทำให้วิศวกรสามารถออกแบบฐานรากที่เหมาะสมกับสภาพดินในพื้นที่
2.ลดความเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดปัญหาองค์ประกอบ
การเข้าใจคุณสมบัติของดินช่วยลดจังหวะที่องค์ประกอบจะเกิดปัญหาทรุดตัวหรือพังทลาย
3.เพิ่มความปลอดภัยในระยะยาว
โครงการที่ทำงานเจาะตรวจดินอย่างถูกต้องจะมีความปลอดภัยและยืนยาวกว่างานที่ข้ามขั้นในเวลานี้
4.เกื้อหนุนการวางแผนโครงงานอย่างยั่งยืน
การใช้ข้อมูลดินในการตกลงใจช่วยทำให้โครงงานดำเนินไปอย่างยั่งยืนแล้วก็ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
🛒📢📌สรุป
การเจาะสำรวจดินเป็นวิธีการที่จำเป็นต้องสำหรับโครงงานก่อสร้างทุกประเภท เพื่อได้ข้อมูลที่ชัดแจ้งเกี่ยวกับคุณลักษณะของดินในพื้นที่ การปฏิบัติตามกรรมวิธีเจาะตรวจสอบดินอย่างสมบูรณ์ช่วยให้แผนการก่อสร้างดำเนินไปอย่างมุ่งมั่น ไม่มีอันตราย และมีคุณภาพ การวางแผนรวมทั้งการใช้กรรมวิธีการเจาะตรวจสอบที่เหมาะสมกับลักษณะของพื้นที่เป็นปัจจัยหลักที่ช่วยทำให้โครงสร้างในอนาคตมีความแข็งแรงรวมทั้งยืนยาว
สำหรับนักปรับปรุงและวิศวกรที่กำลังคิดแผนโครงงาน การลงทุนในงานเจาะตรวจดินอย่างแม่นยำคือกุญแจสู่ความสำเร็จของโครงการในระยะยาว รวมทั้งเป็นการสร้างฐานรากที่มั่นอาจสำหรับโครงสร้างที่ปลอดภัยและยืนยงในภายภาคหน้า
Tags :
ค่าทดสอบดิน วิธี boring test